Last updated: 22 พ.ค. 2567 | 598 จำนวนผู้เข้าชม |
หลายคนสงสัยว่า “สระผมทุกวันดีไหม” ซึ่งคำตอบนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งสภาพเส้นผมและหนังศีรษะ สภาพแวดล้อมและไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล แล้วผมแบบไหนควรดูแลสระผมยังไง วันนี้ภูมิพฤกษามาแนะนำวิธีดูแลเส้นผมแต่ละประเภทกันค่ะ
คนที่มีหนังศรีษะและเส้นผมมัน
ควรสระผมวันเว้นวัน หรืออาทิตย์ละ 2-3 วัน
หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าการสระผมทุกวันเป็นวิธีขจัดความมันออกจากผม แต่ในความเป็นจริงแล้ว การสระผมจะช่วยให้เส้นผมและหนังศรีษะสะอาดขึ้นแค่เพียงชั่วคราวเท่านั้น เพราะหลังจากสระผมเสร็จ ต่อมผลิตน้ำมันธรรมชาติบนหนังศรีษะที่เรียกว่าซีบัม (Sebum) ซึ่งช่วยปกป้องผิวจากความแห้ง ทำให้ผมชุ่มชื้น ไม่แห้งเสีย อีกทั้งยังสามารถจับ ‘DHT’ ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้เกิดผมร่วงได้นั้นก็จะกลับทำหน้าที่ในการผลิตน้ำมันออกมาทดแทนในส่วนที่ถูกกำจัดออกไปเช่นเดิม
ดังนั้นคนที่มีหนังศีรษะมันหรือผมมัน ควรสระผมวันเว้นวัน หรืออาทิตย์ละ 2-3 วัน โดยควรเลือกใช้แชมพูหรือผลิตภัณฑ์สูตรอ่อนโยน ไม่ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองแก่หนังศีรษะ นอกจากนั้น ไม่ควรหวีผมบ่อย ๆ หรือหวีผมแรง ๆ เพื่อไม่ให้เกิดการกระตุ้นให้มีการผลิตน้ำมันเพิ่ม ที่สำคัญคือหมั่นดูแลรักษาหนังศีรษะให้สะอาดอยู่เสมอ หลีกเลี่ยงการอยู่ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนจัด แดดจ้า นอกจากนี้คือไม่ควรเครียด เพราะเมื่อร่างกายเกิดอาการเครียด จะทำให้ฮอร์โมนบางตัวสูงขึ้น และไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมันให้ทำงานมากขึ้น จึงส่งผลให้มีการผลิตไขมันออกมามากกว่าปกติ หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์ทำผมไฟฟ้า เพราะเป็นตัวการทำลายเส้นผมและหนังศีรษะให้แห้ง จนต่อมไขมันต้องผลิตน้ำมันออกมาทดแทนเพิ่มขึ้น และควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารที่มีไขมันสูง เนื่องจากอาหารมัน ๆ จะเพิ่มปริมาณน้ำมันให้กับผิวบริเวณหนังศีรษะ จนทำให้ผมมันมากกว่าปกติ
คนที่เป็นรังแค
หากเป็นคนที่มีปัญหาเรื่องฮอร์โมนไม่สมดุลก็ควรสระผมทุกวัน และเช็ดผมให้แห้งอยู่เสมอ
หากเป็นคนสระผมบ่อยจนหนังศีรษะเสียสมดุลก็ควรลดความถี่ในการสระผม
หลายคนที่เป็นรังแคมักจะสระผมทุกวันเพื่อขจัดรังแค เพราะเข้าใจว่าเกิดจากความไม่สะอาดของเส้นผมและหนังศีรษะ แต่จริง ๆ แล้วรังแคไม่ใช่เป็นเซลล์ผิวที่ตายแล้วผลัดตัวออกมาอย่างเดียว แต่เกิดจากได้จากหลายปัจจัย หนึ่งในนั้นคือ การที่ต่อมไขมันใต้หนังศีรษะผลิตน้ำมันมากเกินไป ส่งผลให้มีการกระตุ้นเชื้อรา จนมีการเจริญเติบโตที่เร็วกว่าปกติ หรือการมีผิวและหนังศีรษะแห้ง ก็จะก่อให้เกิดการผลัดผิวเร็ว จนตกสะเก็ดหลุดลอกออกมาเป็นแผ่น ๆ ได้ อีกทั้งความไม่สมดุลทางฮอร์โมน สภาพอากาศ การขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายเช่น วิตามินบี สังกะสี โอเมก้า ความเครียด การดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ค่อยสระผม ก็ล้วนมีส่วนทำให้เกิดรังแคทั้งสิ้น
หากผู้ที่มีปัญหารังแค อันเกิดจากปัจจัยอื่น ๆ ที่ไม่ใช่มาจากพฤติกรรมการสระผม เช่น ฮอร์โมน พันธุกรรม มลพิษ หรือใช้ผลิตภัณฑ์แต่งผมบ่อย ก็ควรสระผมทุกวันเพื่อกำจัดน้ำมันส่วนเกิน โดยเลือกใช้แชมพูขจัดรังแคสูตรอ่อนโยน
หลังสระผมควรใช้ผ้าสะอาดค่อย ๆ ซับเบา ๆ จนผมแห้ง และไดร์ผมให้แห้งสนิท ไม่ควรเข้านอนทั้งที่ผมเปียก เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงความอับชื้นที่อาจจะเป็นต้นเหตุการเกิดของเชื้อรา ควรหลีกเลี่ยงการขยี้ผมแรงๆ ควรใช้หวีซี่ห่างในการหวีผม โดยเริ่มหวีจากบริเวณรากผมไปตามความยาวของเส้นผม เพื่อเป็นการกระจายน้ำมันจากหนังศีรษะไปหล่อเลี้ยงความชุ่มชื้นให้ทั่วเส้นผม
ส่วนใครที่มีปัญหารังแคที่เกิดมาจากการสระผมบ่อยจนน้ำมันบนหนังศีรษะเสียสมดุล เช่นหนังศีรษะแห้ง หรือมันมาก ก็ควรลดความถี่ในการสระผมลงเพื่อควบคุมสมดุลความมัน รวมถึง ปรับพฤติกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ลดการใช้ความร้อนในการแต่งผมลง สระผมให้สะอาดหมดจด รวมถึง เลือกใช้แชมพูที่อ่อนโยนต่อหนังศีรษะ เป็นต้น
คนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ
ควรสระผมทุกครั้งหลังออกกำลังกาย
เหงื่อที่ออกมากในระหว่างที่ออกกำลังกาย ทำให้เส้นผมและหนังศีรษะมีสิ่งสกปรกสะสมมากขึ้นกว่าปกติด้วยเช่นกัน ดังนั้นผู้ที่ออกกำลังกายสม่ำเสมอจึงควรสระผมเป็นประจำทุกวัน เพื่อขจัดสิ่งที่ตกค้างของเหงื่อ เพราะเหงื่อมีความเค็มที่อาจส่งผลให้เส้นผมเปราะบางและเสียหายได้
คนที่มีผมเส้นเล็ก ละเอียด และตรง
สระผมได้ทุกวัน
คนที่มีผมเส้นเล็กบาง ลักษณะเส้นผมประเภทนี้สามารถสระผมได้เป็นประจำทุกวัน เพื่อขจัดความมันบนเส้นผมที่แพร่กระจายได้ง่ายและรวดเร็วเนื่องมาจากลักษณะของเส้นผมตรง อย่างไรก็ตาม น้ำมันที่มีอยู่ในธรรมชาติของเส้นผมนั้นดีต่อหนังศีรษะ และช่วยทำให้ผมดูเงางาม นุ่มสลวย ดังนั้นถ้าหากไม่อยากสระผมทุกวัน ควรเลือกใช้แชมพูสูตรที่อ่อนโยน และเหมาะสำหรับสภาพเส้นผม
คนที่มีผมเส้นใหญ่และหนา รวมไปถึงคนที่มีผมหยิก หยักศก
ควรสระผมประมาณ 3 ครั้งต่อสัปดาห์
สำหรับคนที่มีผมเส้นใหญ่และหนา แนะนำว่าควรสระผมประมาณ 3 ครั้งต่อสัปดาห์ หรือจะสระผมวันเว้นวันก็ได้ รวมไปถึงคนที่มีผมหยิก หรือ หยักศกด้วยเช่นกัน เนื่องจากเส้นผมที่หยิกและหนาจะทำให้น้ำมันจากหนังศีรษะเคลื่อนที่มายังเส้นผมได้ช้ากว่าเส้นผมประเภทอื่น ซึ่งหมายความว่าถ้าสระผมบ่อย ๆ หรือสระผมแทบทุกวัน ก็จะส่งผลให้เส้นผมนั้นแห้ง และแตกปลายได้
เส้นผมที่ผ่านการทำเคมี ไม่ว่าจะเป็นการทำสี ฟอกสี ยืด หรือดัดผม
ควรสระ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์
เส้นผมมีแนวโน้มที่จะแห้งเสียง่ายกว่าปกติ และคนที่ผมเสีย ผมจะมันยาก เพราะน้ำมันธรรมชาติแพร่กระจายในผมเสียได้ไม่ดี เป็นสาเหตุของผมแห้ง ชี้ฟู ซึ่งผู้ที่ผ่านการทำเคมี และผมแห้ง หรือผมเสียแนะนำให้สระผมบ่อยขึ้นแม้ผมจะไม่มัน แต่เน้นที่การบำรุงผมด้วยการหมักครีมนวด หรือทรีตเม้นท์มาสก์ เพื่อเติมความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม แต่ผู้ที่ผมเสียไม่จำเป็นต้องสระผมทุกวัน โดยเฉพาะคนที่ทำสีผม เพราะการสระจะทำให้สีย้อมหลุดออกได้ง่าย แนะนำว่าให้สระวันเว้นวัน หรือถ้าสระแล้วผมแห้งกว่าเดิม อาจลดความถี่เหลือ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ และใช้แฮร์เซรั่มหรือน้ำมันบำรุงผม (เว้นช่วงโคนผมและหนังศีรษะไว้) ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้เส้นผม
อย่างไรก็ตามอย่างที่บอกไว้ในเบื้องต้น ความถี่ในการสระผมนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ตั้งแต่สภาพเส้นผมของแต่ละคน สภาพอากาศ กิจกรรมในแต่ละวัน ดังนั้น การหาจุดตรงกลางให้พอดี จึงเป็นเรื่องจำเป็นและจะช่วยยืดอายุเส้นผมที่สวยงามสุขภาพดีให้อยู่กับคุณไปได้นานขึ้นกว่าเดิม
แนะนำ
แชมพูสระผมสมุนไพรอ่อนโยนเหมาะกับทุกสภาพเส้นผม
แชมพูสมุนไพรสูตรมะกรูด ขนาด 450 มล. ซื้อ 2 ชิ้นพิเศษ 255.- (ปกติ 358.-)
แชมพูสมุนไพรสูตรอัญชัน ขนาด 450 มล. ซื้อ 2 ชิ้นพิเศษ 255.- (ปกติ 358.-)
แชมพูสมุนไพรสูตรมะพร้าว ขนาด 450 มล. ซื้อ 2 ชิ้นพิเศษ 255.- (ปกติ 358.-)
แชมพูสมุนไพรสูตรมะกรูด ขนาด 250 มล. ซื้อ 2 ชิ้นพิเศษ 199.- (ปกติ 258.-)
แชมพูสมุนไพรสูตรอัญชัน ขนาด 250 มล. ซื้อ 2 ชิ้นพิเศษ 199.- (ปกติ 258.-)
แชมพูสมุนไพรสูตรมะพร้าว ขนาด 250 มล. ซื้อ 2 ชิ้นพิเศษ 199.- (ปกติ 258.-)
ระยะเวลาโปรโมชั่น 15-31 พฤษภาคม 2567
ที่มา
24 ก.ย. 2567
20 พ.ย. 2567
30 ส.ค. 2567